Crypto Wallet สิ่งสำคัญที่นักเทรดควรเก็บไว้ให้ปลอดภัย

By Digital Trader • Publish in Crypto 101 • Mar 29,2021 • 3 min read

Crypto Wallet สิ่งสำคัญที่นักเทรดควรเก็บไว้ให้ปลอดภัย

เคยสงสัยไหมว่า Cryptocurrency ถูกเก็บไว้ที่ไหน?

เมื่อคุณได้ครอบครอง Cryptocurrency สิ่งที่ต้องคำนึงถึงต่อมาก็คือ Crypto Wallet เพราะเป็นสิ่งที่จะรักษาสินทรัพย์ของคุณให้ปลอดภัย หากไม่มี Crypto Wallet สินทรัพย์ที่คุณนำมาลงทุนอาจสูญหายได้

Crypto Wallet คืออะไร ?

Crypto Wallet คือ Software ที่ให้บริการในการเก็บข้อมูล Public Key และ Private Key หลักการทำงานของ Crypto  Wallet จะไม่ได้เก็บ Cryptocurrency แต่จะเก็บเป็นรูปแบบของ Transaction ในระบบของ Blockchain แทน

ทำความรู้จักการทำงานเบื้องต้นของ Crypto Wallet 

หากต้องการส่ง Cryptocurrency ให้ผู้รับ นั่นหมายถึง ผู้ส่งต้องการแจ้งให้รู้ว่า Cryptocurrency นี้ไม่ได้เป็นของตัวผู้ส่งแล้ว Wallet Address ก็จะไม่มี Cryptocurrency นี้อีกต่อไป การยืนยันจะต้องทำผ่าน Public Key และ Private Key เมื่อได้รับการยืนยันแล้ว ยอดเงินทางฝั่งผู้ส่งจะลดลง ส่วนในฝั่งผู้รับก็จะเพิ่มขึ้น และมีการออกใบเสร็จมาในรูปของ Transaction ที่ใครก็สามารถเปิดดูได้

แสดงว่าทุกคนสามารถดูยอดเงินของเราได้แบบสาธารณะเลยใช่ไหม? คำตอบก็คือ...ใช่! เพราะ Blockchain ถูกออกแบบไว้ เพื่อทำให้สามารถตรวจสอบการทำธุรกรรมได้นั่นเอง เพื่อความโปร่งใส เพียงแต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเจ้าของเป็นใคร

ประเภทของ Crypto Wallet

Hot Wallet 

คือ Crypto Wallet ที่ใช้ใน Exchange ทั่วไป ด้วยความสะดวกและรวดเร็วของการใช้งาน เนื่องจาก  Crypto Wallet ชนิดนี้อยู่ในรูปแบบออนไลน์ แต่ผู้ใช้งานจะไม่เคยเห็น Private Key เลย เพราะมันถูกดูแลด้วยเจ้าของ Exchange ทางผู้ใช้งานเพียงแค่ใช้ Wallet Address เพื่อโอนเงินเข้า หรือรับเงินเท่านั้น 

สิ่งที่น่ากังวลก็คือ ถ้าหาก Exchange ไม่น่าเชื่อถือ ก็มีโอกาสโดนชักดาบ และปิดเว็บหายไปพร้อมกับ Cryptocurrency ได้เลย แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะ Satang Pro ของเรานั้นเป็น Exchange ที่มีความน่าเชื่อถือที่คุณสามารถวางใจได้ และเรายังได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง มั่นใจได้เลยว่าสินทรัพย์ของคุณจะปลอดภัย และได้รับการดูแลข้อมูลขั้นสูงด้วยมาตรฐาน ISO อย่างแน่นอน

Cold Wallet (Cold Storage) 

Crypto Wallet ชนิดนี้จะเก็บ Cryptocurrency ของเราไว้นอกเหนือเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เช่นการเก็บไว้ใน Thumb Drive หรือในรูปแบบของ Paper Wallet ซึ่งเราจะเป็นคนจัดการกับ Private Key ด้วยตัวเอง

ข้อดีของรูปแบบนี้คือ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น เพราะเราเป็นผู้ดูแล Private Key และไม่ได้อยู่กับโลกออนไลน์ ก็จะป้องกันการถูกแฮกได้ แต่ข้อเสียของมันก็คือ จะยุ่งยากมากขึ้นกับการต้องนำ Cold Wallet มาต่อกับอินเทอร์เน็ตก่อนนำไปใช้งาน และก็จะมีความซับซ้อนแล้วแต่รูปแบบ Software ที่เราเลือกใช้

Hardware Wallet 

เริ่มมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น เพราะมีความปลอดภัยสูงกว่าวิธีอื่น เป็นการสร้าง Hardware พิเศษ เพื่อใช้งานในการเก็บ Private Key โดยเฉพาะ และเมื่อต้องการจะใช้จ่าย Cryptocurrency ก็เพียงแค่นำ Hardware Wallet มาต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ และทำการเข้า Program หรือ Website สำหรับ Hardware Wallet นั้นๆ 

ข้อเสียหลักในตอนนี้เลยก็คือ ราคาค่อนข้างสูง โดย Hardware Wallet ที่ได้รับความนิยมตอนนี้ก็คือ TREZOR และ Ledger Nano

การโอนเหรียญเข้าออก Crypto Wallet ทำได้อย่างไร?

การโอนเหรียญออกจาก Crypto Wallet มีลักษณะเหมือนการโอนเงินปกติ เช่น ผู้โอนต้องการย้าย Cryptocurrency ไปเก็บไว้ที่ Crypto Wallet อื่น หรืออยากโอนออกไปให้กับผู้รับ หรือ Exchange เพื่อทำการซื้อขาย สิ่งที่ผู้โอนต้องทราบคือ Address ของ Wallet ปลายทางที่จะโอน ตัวอย่างเช่น 0x5a0b54d5dc17…. เมื่อผู้โอนทราบ Address แล้วก็ทำการ Copy (ต้องเอามาให้ครบทุกตัวห้ามตกหล่นเด็ดขาด) หลังจากนั้นก็ไปที่ Wallet ที่ผู้โอนมี Cryptocurrency นั้นอยู่ ทำการใส่ Address ลงไป และทำการกดถอน Cryptocurrency ออก 

.

ใน Cryptocurrency บางชนิดอาจมี Memo เพิ่มขึ้นมาด้วย ดังนั้นก่อนการโอนเงินให้ตรวจสอบทุกครั้งและทำการ Copy Memo ของ Cryptocurrency นั้นๆ ก่อนกดถอนด้วย 

.

ขั้นตอนเรื่องการ Copy Address นี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ตัวอักษรใน Address Wallet ห้ามตกหล่นแม้แต่ตัวเดียว และห้าม Copy Address ผิดเหรียญด้วย เพราะแต่ละเหรียญจะมีรูปแบบของ Wallet Address ที่ไม่เหมือนกัน

.

ขั้นตอนการโอนเหรียญนั้นไม่ได้ยุ่งยากแต่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง รวมถึงการใช้งาน Crypto  Wallet ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน และควรที่จะรู้วิธีการเก็บรักษาให้ปลอดภัย ไม่เช่นนั้นสินทรัพย์ของคุณอาจจะหายไปในอากาศได้ภายในพริบตา 

Next article

Digital Trader

Content Creator

Digital Trader ผมวิเคราะห์ตามหลักสถิติประยุกต์ หลักการของแท่งเทียน และประสบการณ์ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา