หลังจากราคาบิตคอยน์ (BTC) ร่วงแรงจนหลุดต่ำกว่า $85,000 เมื่อต้นสัปดาห์ ตลาดเกิดการเด้งกลับอย่างรวดเร็วเหนือ $93,000–94,000 โดยมีปัจจัยหลัก 3 อย่างช่วยหนุนตลาดให้ฟื้นตัวแบบทันทีทันใด

ช่วง 1–2 วันที่ผ่านมา ตลาดคริปโตเจอ “แรงกดดันหลายด้านพร้อมกัน” โดยเฉพาะ ข่าวใหญ่จากจีนที่ย้ำปราบ Stablecoin และคริปโตทุกชนิดแบบเข้มงวด โดยออกแถลงการณ์ย้ำว่า เงินดิจิทัล รวมถึง stablecoin  “ไม่มีสถานะเป็นเงินตราถูกกฎหมาย”

ช่วงนี้กระแส “ควอนตัมจะทำให้บิตคอยน์ล่มสลาย” ถูกโยงว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดราคาลงต่อเนื่อง จนตลาดเกิด panic ทั้งฝั่ง Spot และ Futures แต่เมื่อดูข้อมูลจริงจากงานวิจัยปี 2025 จะเห็นว่าภัยควันตัมถูกขยายเกินความเป็นจริงมากกว่าที่คิด

เปิดเหตุผลที่ราคาบิตคอยน์ถูก “ทุบลงทุกวัน” เงินไหลออก ความเสี่ยงจาก FED

หลังวันที่ 11 พ.ย. เป็นต้นมา ราคา Bitcoin ยังลงแบบไม่มีแรงซื้อพอจะพยุง จนวันนี้หลัง 11:00 น. BTC หลุดต่ำสุด $90,000 เป็นระยะเวลาที่ตลาดโดน “ขายทิ้งอย่างหนัก” แบบแทบไม่มีแรงดีดกลับ ภายใน 1 สัปดาห์

หลายประเทศเริ่มเอาจริงกับข้อกำหนดขของสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษหรือบราซิล และญี่ปุ่นกำลังจะเข้าร่วมการเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยเช่นกัน

อังกฤษเปิดทาง Stablecoin เข้าสู่ระบบการเงินจริง ส่วนบราซิลเริ่มยอมรับคริปโตและควบคุมไปในเวลาเดียวกัน

ระบบการเงินปัจจุบัน(Fiat)ต้องใช้ความเชื่อมั่นของประชาชนว่าระบบจะไม่พัง ระบบจึงสามารถทำงานต่อได้ แต่ตอนนี้คำถามมากมายเริ่มเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น..

สมมติว่ามี บ้านขายอยู่ 1 หลัง แต่มีคนอยากซื้อ 1 คน ถือเงิน 1 ล้าน ราคาบ้านก็ 1 ล้าน พอวันหนึ่งรัฐบาลพิมพ์เงินเพิ่ม ทำให้ มีคนในตลาดถือเงินมากขึ้นสองเท่า แต่บ้านยังมีแค่หลังเดียว คนอยากซื้อเยอะขึ้น แข่งกันเสนอราคา ทำให้เจ้าของบ้านขายได้แพงขึ้นทันที