Bitcoin ติดลบตั้งแต่ต้นปี ขณะที่ทองคำและหุ้นสหรัฐฯ ทำผลงานดีกว่าชัดเจน ส่วน Altcoins หนักกว่านั้น หลายเหรียญร่วงลงกว่า 90% จากจุดสูงสุด ทำให้นักลงทุนจำนวนมาก

รายงานสืบสวนจาก Financial Times เปิดโปงว่า แม้ Binance จะเคยจ่ายค่าปรับก้อนใหญ่ให้สหรัฐฯ ไปแล้ว แต่ยังคงมีบัญชีต้องสงสัยจำนวนมาก ที่ทำธุรกรรมต่อเนื่องรวมมูลค่ากว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์

แม้ตลาดคริปโตจะยัง "ผันผวน"

แม้ Fed จะลดดอกเบี้ยอีกครั้ง แต่ท่าทีไม่ชัดว่าจะลดต่อ ทำให้ตลาดลังเลและคริปโตแกว่งตัวแรงขึ้น เสียงคัดค้านเพิ่มสะท้อนความไม่แน่นอน นักลงทุนจึงถือความเสี่ยงน้อยลง

Bitcoin ยังคงแกว่งตัวบริเวณ $90,000 ตลอดวันจันทร์ แม้ก่อนหน้านี้จะร่วงลงแตะโซนต่ำกว่า $85,000 แต่แรงซื้อกลับ (short covering) ทำให้ราคาฟื้นขึ้นมาทรงตัวได้

หลังจากราคาบิตคอยน์ (BTC) ร่วงแรงจนหลุดต่ำกว่า $85,000 เมื่อต้นสัปดาห์ ตลาดเกิดการเด้งกลับอย่างรวดเร็วเหนือ $93,000–94,000 โดยมีปัจจัยหลัก 3 อย่างช่วยหนุนตลาดให้ฟื้นตัวแบบทันทีทันใด

ช่วง 1–2 วันที่ผ่านมา ตลาดคริปโตเจอ “แรงกดดันหลายด้านพร้อมกัน” โดยเฉพาะ ข่าวใหญ่จากจีนที่ย้ำปราบ Stablecoin และคริปโตทุกชนิดแบบเข้มงวด โดยออกแถลงการณ์ย้ำว่า เงินดิจิทัล รวมถึง stablecoin  “ไม่มีสถานะเป็นเงินตราถูกกฎหมาย”

ช่วงนี้กระแส “ควอนตัมจะทำให้บิตคอยน์ล่มสลาย” ถูกโยงว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดราคาลงต่อเนื่อง จนตลาดเกิด panic ทั้งฝั่ง Spot และ Futures แต่เมื่อดูข้อมูลจริงจากงานวิจัยปี 2025 จะเห็นว่าภัยควันตัมถูกขยายเกินความเป็นจริงมากกว่าที่คิด

เปิดเหตุผลที่ราคาบิตคอยน์ถูก “ทุบลงทุกวัน” เงินไหลออก ความเสี่ยงจาก FED