MarketTradeAbout usPromotionBlog
Login
English/THB
blue triangle

Blog

Get the latest trading news

AllMarket Trends / InsightTrading GuideCrypto 101CampaignAnnouncementFAQHow to use orbix

About us

Company ProfileExecutive SummaryAwards and CompliancesFinancial StatementsOur Team

Products

orbix AppProduct featuresCoin InfoTrading Conditions & Fees

Services

DownloadTerms & ConditionsPrivacy PolicyAML/CTPF PolicyCookie PolicyMarket Maker RulesTrading, Clearing & Settlement RulesListing and Delisting RulesSEC Check First

Support

Q&AAPI DocumentationWhistleblowing & ComplaintContactQuality of Service

About us

Products

Services

Support

Community

orbix Contact Center tel. (+66)20266107 (Everyday 08.00 - 19.00) | © 2017 - 2025 orbixtrade.com All rights reserved | Version. v1.18.0

We use cookies on the orbixtrade website to improve and personalize your browsing experience.
By clicking “Accept all” you agree to the use of cookies for analytical insights, and marketing, as described in our Cookies Notice.
If you disagree with the use of cookies for analytics and marketing, please click “Reject Optional Cookies”.
To manage your cookies preference, please click “Customize Cookies”.

มารู้จัก Non-Fungible Token หรือ NFT กระแสมาแรงที่ใครๆ ก็พูดถึง

By Digital Trader • Publish in Market Trends / Insight • Mar 17,2021 • 3 min read

Next article

Digital Trader

Content Creator

Digital Trader ผมวิเคราะห์ตามหลักสถิติประยุกต์ หลักการของแท่งเทียน และประสบการณ์ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา

Relate Post

การวิเคราะห์ทางเทคนิคในการเทรดคริปโตนั้น มีอยู่หลากหลายเครื่องมือ เเต่ละเครื่องมือจำเป็นต้องใช้ความชำนาญในการอ่านกราฟทั้งสิ้น

การเลือก Time Frame เป็นคำถามยอดฮิตสำหรับเทรดเดอร์ที่ซื้อขายด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยเฉพาะมือใหม่หัดเทรด ว่าเราควรเลือก Time Frame ไหนจะดีที่สุดในการเทรด Cryptocurrency การเลือก Time Frame เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ อย่างหนึ่ง ถือเป็นเครื่องมือช่วยเทรดที่ควรทำความเข้าใจก่อนทำการเทรด

Trading Volume

ตีเส้น Trend Line ให้เป็น เพิ่ม % ชนะตลาดคริปโต
Trading Guide

ตีเส้น Trend Line ให้เป็น เพิ่ม % ชนะตลาดคริปโต

Digital Trader

Mar 19,2021

3 min

Digital Trader

Mar 26,2021

3 min

เทรดคริปโตเลือก Time Frame ไหนดี?
Trading Guide

เทรดคริปโตเลือก Time Frame ไหนดี?

มารู้จัก Non-Fungible Token หรือ NFT กระแสมาแรงที่ใครๆ ก็พูดถึง

มีคนกล่าวไว้ว่าการมาของ NFT จะเป็นตัวเปลี่ยนอุตสาหกรรมเกม วงการศิลปะ หรือแม้แต่อสังหา! แต่ด้วยเหตุอะไร และจะส่งผลกระทบมากมายขนาดไหนต้องมาดูกัน!

ทำความเข้าใจ Non-Fungible Asset ก่อน

Non-Fungible Asset มีคอนเซ็ปท์ง่ายๆ คืออะไรก็ตามที่เรา “แสดงความเป็นเจ้าของได้” และ มีคุณสมบัติเฉพาะตัว มีคุณค่า เช่น ของสะสม งานศิลปะ ที่ดิน ตั๋วคอนเสิร์ต เป็นต้น สิ่งของเหล่านี้สามารถนำมาทำ NFT ได้

แล้วทำไมต้องทำให้ Non-fungible Asset เป็น NFT ?

เพราะด้วยเทคโนโลยี Blockchain ทำให้ไม่ต้องห่วงเลยว่าสินทรัพย์ที่มีคุณค่าเหล่านั้นจะถูกแฮค สูญหาย โดนขโมย หรือถูกโยกย้ายเปลี่ยนมือได้ง่าย ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนแบน ยกตัวอย่าง ถ้านำ NFT มาใช้ในวงการเกมก็จะหมดปัญหา Walled Garden (การที่เจ้าของ Platform ไม่เปิดให้ใครเข้ามาหาผลประโยชน์นอกจากตัวเอง เช่น ค่ายเกม, App Store, Facebook) ทำให้การย้ายไอเทมในเกมหนึ่งไปอีกเกม หรือแม้แต่ย้ายไปในเกมที่ถูกสร้างโดยผู้พัฒนาที่ต่างกันก็สามารถทำได้

NFT จะใช้ได้ที่ไหนบ้าง?

เริ่มจากวงการเกม ซึ่งเกมที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น My Crypto Heroes เกมต่อสู้จากแดนอาทิตย์อุทัยที่สร้างบนพื้นฐานของ Etherum Blockchain มีระบบเควส และทัวร์นาเมนต์เหมือนเกมต่อสู้ทั่วไป แต่ตัวละครที่เรามีจะเป็น NFT , Gods Unchained การ์ดเกมมาแรงที่การ์ดทั้งหมดเป็น NFT ให้ผู้เล่นซื้อขายแลกเปลี่ยนเพื่อสะสมได้, CryptoKitties การ์ดเกมอีกตัวที่โด่งดังมาก สามารถสะสมและผสมพันธุ์น้องแมวออกมาเป็นพันธ์ุใหม่ สามารถนำน้องแมว NFT ไปขายต่อได้ เป็นต้น นอกจากนี้ NFT ยังเป็นที่สนใจจากบริษัทใหญ่ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Ubisoft ที่ออก Rabbids Token เป็น NFT หายากให้ผู้คนที่ชื่นชอบได้สะสมเก็บเข้า Collection กันได้, หรือจะบริษัทรถยนต์ชื่อดังอย่าง

Formula 1 ที่ได้เซ็น License กับ Animoca ในการเอา NFT ไปใช้กับรถยนต์ ส่วนประกอบของรถ และนักแข่งบน Ethereum-powered game

มาดูกันที่ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่กันบ้าง Samsung นำ NFT มาใช้กับ Crypto Wallet ของตัวเองอย่าง Enjin ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มชุมชนเกม Blockchain ที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ ขณะที่วงการกีฬา NFL & NBA ร่วมมือกับ Panini ในการออกการ์ดสะสมของนักบาสเก็ตบอล และนักอเมริกันฟุตบอลมืออาชีพในรูปแบบของ NFT หรือแบรนด์รองเท้าระดับตำนานอย่าง  Nike เอง ก็ใช้ NFT ในการออก Digital Shoes ที่สามารถแลกเป็นรองเท้าจริงได้ แบรนด์ Hi-end อย่าง Louis Vitton ก็ใช้ NFT ในการตรวจสอบความเป็นเจ้าของ และความน่าเชื่อถือของสินค้าว่าเป็นของแท้หรือไม่ เป็นต้น

แล้ว NFT ต่างจาก Typical Cryptocurrency ทั่วๆไปอย่างไร?

NFT ควรมีคุณสมบัติ 3 ประการ ดังนี้

  1. Unique: อ้างอิงจาก metadata ที่ให้คำนิยาม NFT ไว้ว่าต้องเป็นสิ่งที่มีโครงสร้างเป็น Permanent ไม่สามารถทดแทนได้ คุณสมบัตินี้จะทำให้ NFT ทำหน้าที่เหมือนใบ Certificate ยืนยันความน่าเชื่อถือ ปลอมแปลงไม่ได้
  2. Rare: ถ้าเราจะทำอะไรให้ผู้คนสนใจ ความหายากเป็นคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้ เหล่านักพัฒนาสามารถสร้าง Token ออกมาได้ไม่จำกัด แต่ NFT จะไม่ทำอย่างนั้น ความหายากจะทำให้มันเป็นที่ต้องการมากขึ้น
  3. Indivisible: เราสามารถซื้อ ขาย หรือเก็บ NFT ไว้เท่านั้น ไม่สามารถแยกเป็นส่วนเล็กๆ ได้แบบเงินตรา หรือคริปโทอื่นๆ ถ้านึกไม่ออกจะยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ถ้าคุณมีธนบัตร 100 บาท 1 ใบ สามารถแลกเป็นธนบัตร 20 บาท 5 ใบได้ แต่คุณไม่สามารถเป็นเจ้าของตั๋วฟุตบอลแค่ครึ่งใบ แล้วเข้าไปชมฟุตบอลในสนามได้ หรือ คุณไม่สามารถหั่นงานศิลปะชิ้นดังออกมาขายแค่ 25% ได้เพราะของเหล่านี้จะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อมันไม่สามารถแบ่งเป็นชิ้นๆได้นั่นเอง

เห็นหรือไม่ว่าโลกเรามีการยอมรับและใช้ NFT กันอย่างแพร่หลายทีเดียว ศิลปินหลายคนหันมาขายงานผ่าน NFT แล้ว ถ้าให้ยกตัวอย่าง NFT ที่ได้รับความนิยมก็คงไม่พ้นมีมแมวสายรุ้ง “Nyancat” ที่ทำราคาได้ถึง 590,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 18 ล้านบาท และ  NFT เองก็เพิ่มความน่าสนใจให้กับวงการของสะสม และงานศิลปะอีกด้วย เพราะมันจะเป็นเครื่องการันตีว่าของที่คุณจ่ายเงินซื้อนั้นเป็นของแท้แน่นอน ดังนั้นนอกจาก NFT จะทำให้คุณสามารถเป็นเจ้าของร่วมในสิ่งๆหนึ่งได้แล้ว มันยังช่วยป้องกันการลอกเลียน และสามารถทำลายอุตสาหกรรมการลอกเลียนแบบได้อีกด้วย