อัปเดตข่าวสารการซื้อ-ขายจากเรา
เขียนโดย Digital Trader • หมวดหมู่ แนวโน้มตลาด / อินไซต์ • 02 ส.ค. 2564 • เวลาอ่าน 3 นาที

นักลงทุนที่ดีควรมีการวางแผนการลงทุน ทั้งเรื่องมุมมองในด้านผลตอบแทน ความเสี่ยง รวมถึงสถานการณ์ในปัจจุบันว่าเหรียญกลุ่มใดกำลังได้รับประโยชน์อยู่ในตอนนี้ และเป็นที่พูดถึงของนักลงทุนคนอื่นๆ เพื่อที่จะทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้อย่างมั่นใจ และทำกำไรได้ในทุกสถานการณ์ แต่ใช่ว่านักลงทุนทุกคนจะสามารถใช้เวลาศึกษา และทำความเข้าใจในการลงทุนกับ Technical Analysis จนเชี่ยวชาญ เพื่อนำมาใช้ทำกำไรที่ให้ผลการตอบแทนที่คุ้มค่าได้ ดังนั้นในบทความนี้เราจึงจะมาพูดถึง Asset Rotation กลยุทธ์การทำไรโดยไม่ต้องใช้ Technical Analysis ที่จะสามารถช่วยให้นักลงทุกคนเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการลงทุนได้โดยที่ไม่ต้องใช้วิธีซับซ้อน ซึ่ง Asset Rotation นี้มาจากการรวมตัวกันของ Asset Allocation และ Sector Rotation นั่นเอง
Asset Allocation คืออะไร?
Asset Allocation คือ การจัดการสินทรัพย์ โดยการกระจายเงินไปลงทุนในสินทรัพย์การลงทุนประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ตราสารหนี้ หุ้น หรือสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ อย่าง สินทรัยพ์ดิจิทัล ทองคำ น้ำมัน อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งการกระจายการลงทุนที่ดีนั้นต้องขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละบุคคลด้วย โดย Asset Allocation นั้นจะพิจารณาจากอัตราผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ (Expected Return) จากหลักทรัพย์แต่ละประเภทเพื่อกำหนดสัดส่วนการลงทุนให้สอดคล้องกับความสามารถในการรับความเสี่ยงของผู้ลงทุน และระยะเวลาที่ต้องการลงทุน
Sector Rotation คืออะไร ?
Sector Rotation คือการวางแผนการลงทุนที่เป็นลักษณะรูปแบบการเปลี่ยนอุตสาหกรรมในการลงทุนไปเรื่อยๆ โดยกลุ่มของอุตสาหกรรมจะถูกปรับเปลี่ยนไปตามผลประโยชน์ของแต่ละอุตสาหกรรมที่จะได้รับ ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงที่เกิดสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 จนเป็นเหตุทำให้ต้อง Lockdown ปิดประเทศ สินทรัพย์อย่างหุ้นในกลุ่ม E-Commerce จึงได้ประโยชน์ และในบางครั้งอุตสาหกรรมการลงทุนก็มักจะถูกเลือกจากความชื่นชอบของตัวนักลงทุนเองด้วย
Asset Rotation คืออะไร ?
Asset Rotation คือการวางแผนการลงทุนในลักษณะของการกระจายการลงทุนไปลงทุนในหลายสินทรัพย์ สลับปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ในเรื่องมุมมองของการเลือกสินทรัพย์ที่จะลงทุนนั้นมุ่งเน้นไปที่ Fundamental เป็นหลักมากกว่า Technical ซึ่งแท้ที่จริงแล้วการเลือก Asset นั้นมีหลากหลายรูปแบบ แต่ 3 สิ่งที่นักลงทุนมักจะพิจารณาเป็นหลักคือ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ ความเสี่ยง และระยะเวลาในการลงทุน เพื่อที่จะทำให้นักลงทุนสามารถกำหนดสัดส่วนของการลงทุนได้อย่างเหมาะสม
Sector Rotation กับโลก Cryptocurrency
Cryptocurrency ในปัจจุบันนั้นมีการนำเหรียญไปใช้ในหลากหลายรูปแบบ และมีการแยกประเภทของเหรียญตามการใช้งานจริง ยกตัวอย่างเช่น Privacy Coin, Oracle Coin หรือ Payment Coin ทำให้นักลงทุนสามารถทำ Sector Rotation หรือเลือกลงทุนตามความชื่นชอบ และมุมมองการเติบโตในระยะยาวได้ว่าเหรียญใดหรือกลุ่มใดมีโอกาสเติบโตมากจึงเลือกลงทุนในเหรียญนั้น หรือหากนักลงทุนเกิดมุมมองในแต่ละสถานการณ์ต่างๆ อย่างเช่น ปัจจุบันอุตสาหกรรม DeFi กำลังเติบโตเหรียญในกลุ่มใดที่จะได้รับผลประโยชน์ก็อาจจะเลือกลงทุนในกลุ่มนั้นๆ
Asset Allocation กับโลก Cryptocurrency
ด้วยหลักการของ Asset Allocation ที่ได้กล่าวมานั้น การกระจายการลงทุนใน Cryptocurrency เพียงแค่ตัวเดียวนั้นยังไม่เพียงพอ เนื่องจากการทำ Asset Allocation ที่ดีต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่นักลงทุนสามารถรับได้ และสินทรัพย์ที่ลงทุนด้วย รวมไปถึงการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภทก็ควรมีการกระจายความเสี่ยงด้วย ซึ่งหากจะลงทุนใน Cryptocurrency นักลงทุนไม่ควรลงทุนในเหรียญเพียง 1 ตัว หรือลงหลายๆ ตัวในลักษณะเดียวกัน เช่น ลงทุนใน Cryptocurrency เหรียญหลักอย่าง BTC ETH BNB ซึ่งการลงทุนลักษณะนี้ยังไม่ได้กระความเสี่ยงไปมากนัก เพราะเป็นการลงทุนใน Cryptocurrency ที่มีลักษณะคล้ายกัน หากราคาเหรียญกลุ่มนี้ปรับตัวลงอาจกระทบกับการลงทุนได้ นักลงทุนควรเลือกลงทุนใน Cryptocurrency ทั้ง 3 กลุ่มคือ Bitcoin, Altcoin,Stablecoin และอาจจะเลือกลงทุนในเหรียญที่สามารถนำไปฟาร์มใน DeFi ต่อได้ เป็นต้น

ผู้เขียน

Risk/Reward Ratio เทคนิคการคำนวณกำไรในตลาดคริปโต
การคำนวณความเสี่ยงถือเป็นสิ่งที่สำคัญในการเทรดคริปโต สำหรับหลายๆ ท่านที่เทรดคริปโตเเล้วยังไม่ได้กำไรนั้น สาเหตุบางส่วนอาจจะเกิดจากการที่ยังไม่ได้คำนวณความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการเทรด เพราะถ้าหากเราคำนวนความเสี่ยงจะทำให้เรารู้จุดเข้าออกในเเต่ละครั้งที่เทรดจะช่วยให้เราสามารถเข้าเทรดในจุดที่ได้เปรียบในการเทรดคริปโตได้อย่างดี เเละในบทความนี้เราจะไปทำความรู้จักการใช้ Risk/Reward Ratio ในการเทรดคริปโต
ดิจิตอล เทรดเดอร์
02 ก.ค. 2564
4 นาที
นักลงทุนในตลาด Cryptocurrency จำเป็นที่จะต้องตระหนักไว้เบื้องต้นเลยว่าความผันผวนของราคานั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ซึ่งนักลงทุนมือใหม่หลายท่านที่เข้ามาในตลาดได้ไม่นานอาจต้องตกใจกับการเหวี่ยงของราคาที่รุนแรงในระยะเวลาอันสั้นจนเป็นเหตุให้ขาดทุนกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งในบทความนี้จะทำให้นักลงทุนทั้งมือใหม่ และนักลงทุนที่อยู่ในตลาดมานานได้ทำความรู้จักกับกลยุทธ์การลงทุนเมื่อตลาดผันผวน
ดิจิตอล เทรดเดอร์
26 ก.ค. 2564
3 นาที
Asset Rotation กับโลก Cryptocurrency
การทำ Asset Rotation นักลงทุนสามารถวางแผนการลงทุนใน Cryptocurrency โดยยึดหลักของความเสี่ยง และผลตอบแทนตามหลักของ Asset Rotation ได้ ดังเช่น Cryptocurrency อย่าง Bitcoin หรือ Ethereum นั้นมีความผันผวนน้อยกว่า Dogecoin ซึ่งเป็นเหรียญที่หลายๆ คนขนานนามว่าเหรียญปั่นแห่งปี เนื่องจากมีความผันผวนสูง ราคาของเหรียญสามารถขึ้น และลงจากข้อความของคนดังเพียงไม่กี่ข้อความบนโลกออนไลน์ ดังนั้นนักลงทุนสามารถเลือก และคำนวณน้ำหนักของ Cryptocurrency ที่จะถือครองเพื่อความเหมาะสมในการลงทุน และทำกำไรตามแผนที่วางเอาไว้ได้ ทั้งนี้นักลงทุนจะต้องมีการคำนวณระยะเวลาในการลงทุน และมีการปรับเปลี่ยนเหรียญที่จะลงทุนเพื่อผลกำไรที่มากขึ้นในแต่ละช่วง และประโยชน์ของเหรียญนั้นๆ ที่นักลงทุนจะได้รับ
ปรับลักษณะการลงทุนในตลาดที่ต่างกัน
การวางแผนการลงทุนแบบ Asset Rotation เป็นการผสมผสานระหว่าง Asset Allocation และ Sector Rotation ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญที่จะทำให้นักลงทุนสามารถทำกำไร และเติบโตในระยะยาว เนื่องจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปทำให้กลุ่มเหรียญที่ได้รับประโยชน์เปลี่ยนไปเช่นกัน การที่นักลงทุนจะเลือกลงทุนนั้น ควรปรับไปตามเทรนด์หรือปรับไปตามตลาดที่กำลังได้รับความสนใจ จึงจะทำให้การลงทุนนั้นมีการเติบโตที่ดี และมีกำไรสูง แต่ปัญหานั้นอยู่ที่นักลงจะไม่สามารถรู้ได้ตลอดเวลาว่าตอนนี้เหรียญกลุ่มใดกำลังได้รับประโยชน์ ดังนั้นนักลงทุนควรติดตามข่าวหรือสถานการณ์ของ Cryptocurrency อย่างใกล้ชิดเพื่อวิเคราะห์ และจับจังหวะการลงทุนให้แม่นยำมากขึ้น และอย่าลืมว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง