หนี้สหรัฐสูงสุดใหม่ = สัญญาณ หาสินทรัพย์ทางเลือก ทองคำ-บิตคอยน์!?

 

เมื่อหนี้พุ่งเป็นประวัติการณ์ และ Fed กำลังผ่อนคุมเข้ม  เงินจะไหลหา ‘ทอง’ เพื่อเสถียรภาพ และ ‘Bitcoin’ เพื่อโอกาสสมัยใหม่

 

หนี้สหรัฐ แตะ ~$38 ล้านล้าน (20 ต.ค. 2025) ตามฐานข้อมูล Treasury “Debt to the Penny” และสรุปโดย JEC/สภาคองเกรส

 

ส่วนหนี้โลก ทำสถิติใหม่ ~$338 ล้านล้าน (Q2’25) ตาม IIF; IMF เตือนสัดส่วนหนี้ต่อ GDP โลกอาจแตะ 100% ภายในปี 2029

 

พฤติกรรมเงินเมื่อ “หนี้สูง–ดอกเบี้ยเริ่มลด”

• นักลงทุนเพิ่มสัดส่วน สินทรัพย์ทางเลือก (ทอง/Bitcoin) เพื่อกันความเสี่ยงจากฐานะการคลังและการอ่อนค่าของเงินกระดาษ
• ฝั่งทอง: ความไม่แน่นอน + ดอกเบี้ยจริงต่ำ = โมเดลหนุนความต้องการทอง (WGC)
• ฝั่งคริปโต: ช่องทางสถาบันผ่าน Spot BTC ETF ทำให้ “เงินใหม่” เข้าถึง BTC ได้ง่ายและเป็นระบบมากขึ้น (ติดตามกระแสเงินผ่านแดชบอร์ด inflow)

 

ทำไมต้องหาสินทรัพย์ทางเลือก?

• เมื่อรัฐบาลพิมพ์เงินหรือกู้มาก → ค่าเงินมีแนวโน้มอ่อน → เงินเฟ้อแฝง

• นักลงทุนจึงมองหาสินทรัพย์ที่ “ไม่ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐ” เช่น ทองคำ และ Bitcoin

• ทองคำ: มีประวัติ 5,000 ปี เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และไม่ถูกพิมพ์เพิ่ม

World Gold Council รายงานว่า สัดส่วนทองในทุนสำรองธนาคารกลางเพิ่มต่อเนื่องตลอด 5 ปี ล่าสุด

• Bitcoin: จำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ และเริ่มได้รับการยอมรับระดับสถาบัน โดยเฉพาะหลัง Spot ETF ผ่าน

 ข้อมูลจาก CoinShares และ SoSoValue แสดงให้เห็น inflow จากกองทุนสถาบันเพิ่มขึ้นต่อเนื่องใน Q3–Q4 2025

 

อ้างอิง 

https://fiscaldata.treasury.gov/datasets/debt-to-the-penny/debt-to-the-penny
https://www.theguardian.com/business/2025/oct/15/global-government-debt-100-percent-of-gdp-by-2029-…https://www.theblock.co/data/etfs/bitcoin-etf/spot-bitcoin-etf-flows
https://finance.yahoo.com/news/bitcoin-etfs-post-biggest-inflow-113215131.html

อ่านบทความเพิ่มเติม

จากสินทรัพย์ต้องห้ามปี 1933 สู่ปี 2025 ของที่ทั้งโลกต้องมี ทองคำ & บิตคอยน์